Work life harmony เคล็ดลับในการบรรลุความสมดุลระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิต

อ่านเคล็ดลับ Work life harmony เพื่อบรรลุความสมดุลระหว่างงานและชีวิต! พบเทคนิคที่จะทำให้คุณทำงานได้เต็มที่ โดยไม่ละเลยคุณภาพชีวิต
Work life harmony

เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อ

“อย่าทำงาน จนงานกลืนกินคุณ” ถ้าคุณทำงานจนเกิดความเหนื่อยหน่ายอยู่เป็นประจำ จนกระทั่งทำให้เกิดสภาวะของความเหนื่อยล้าทางอารมณ์ จิตใจ และร่างกาย ที่เกิดจากความเครียดเรื้อรังที่มาจากการทำงาน อาจส่งผลกระทบต่อทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจได้อย่างรุนแรง เช่น ความดันโลหิตสูง, นอนไม่หลับ, ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ, ปวดหัว และปัญหาอื่น ๆ วันนี้อูก้าจะมาแนะนำเคล็ดลับดี  ๆ ที่จะทำให้คุณบรรลุความสมดุลระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิต กันค่ะ

Work life harmony งานและชีวิตไปด้วยกันได้

ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน การบรรลุความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว จัดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความเป็นอยู่ที่ดีและความสำเร็จโดยรวม ซึ่งอู้ก้าก็จะมาแนะนำเคล็ดลับอันมีค่าที่จะช่วยทำให้คุณบรรลุความสงบในชีวิตการทำงาน และสร้างชีวิตที่ดี ซึ่งไม่ได้มีเพียงแต่มีประสิทธิผลเท่านั้น แต่ยังมีความหมายอีกด้วย

  1. แบ่งเวลาในการวางแผน เสียเวลานิดหน่อยเพื่อวางระบบในการทำงาน จะทำให้คุณทำงานได้เร็วกว่า และจะทำให้เวลาที่เหลือของคุณทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นมาก หยิบกระดาษออกมาจับจัดลำดับความสำคัญ งานไหนเป็นงานยากต้องใช้เวลา คุณอาจจะเริ่มทำงานก่อนเพื่อจะได้มีเวลาคิด งานไหนเป็นงานง่าย ๆ ที่คุณทำเป็นประจำอยู่แล้วมีทักษะอยู่แล้ว อาจจะวางไว้ในช่วงท้าย ๆ และในระหว่างที่ทำงานขอให้ความมุ่งมั่นตั้งใจใช้ทุกนาทีให้คุ้มค่า
  2. ออกไปสูดอากาศบ้าง เมื่อคุณรู้สึกหนักใจและความเครียด อะดรีนาลีนของคุณจะอยู่ในระดับสูง ออฟฟิตของคุณอาจกลายเป็นสถานที่ที่แย่ที่สุดได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นพยายามจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้ดีถ้าคุณทำงานมาอย่างเข้มข้นแล้ว อาจจะลุกจากโต๊ะไปสูดอากาศบ้าง 2-3 นาที ปรับอารมณ์แล้วค่อยมาเริ่มทำงานใหม่ อากาศบริสุทธิ์จะทำให้สมองของคุณปลอดโปร่ง
  3. พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน หลาย ๆ คนอาจจะไม่เจอเพื่อนร่วมงานที่ดี หรืออาจจะไม่ได้เจอร่วมงานที่เข้าขากันได้เลย แต่สำหรับบางคนอาจจะอยู่ในสังคมที่มีเพื่อนร่วมงานที่ดีมีความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นเพื่อนแท้อีกกลุ่มหนึ่ง คุณก็สามารถที่จะระบายความทุกข์ความเครียดให้กับเพื่อนร่วมงานที่คุณไว้ใจได้ แต่ขอเน้นย้ำเลยว่าจะต้องไว้ใจได้จริง ๆ เพราะถ้าคุณไประบายความทุกข์ผิดคนสิ่งที่ตามมาอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิมก็เป็นได้ หรือคุณอาจจะระบายกับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้ทำงานด้วยกัน หรือคนที่คุณไว้ใจคนอื่น ๆ ก็ได้
  4. หยุดพัก นอนหลับให้เต็มอิ่ม ในยามที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้าเพราะทำงานมาอย่างยาวนาน ประสิทธิภาพในการทำงานของคุณลดลง คุณต้องใช้ความพยายามในการคิดมากขึ้น ต้องใช้ความพยายามในการตั้งโฟกัสมากขึ้น คุณอาจจะมีการวอกแวกมากขึ้นหลังจากที่เหนื่อย ดังนั้นการหยุดพักบ้างไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่การดังทุรังทำต่อไปทั้ง ๆ ที่สภาพร่างกายหรือสมองไม่พร้อม จะทำให้คุณเหนื่อยยิ่งกว่าเดิมและงานก็อาจจะไม่เดินและไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
  5. การเซย์โนเองก็มีความสำคัญเหมือนกันนะ นอกจากจะ Say Yes แล้วการ Say No เองก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเองเช่นเดียวกัน เพราะคุณอาจจะเจอการฝากงานของเพื่อนต้องรับหน้าที่ในตำแหน่งที่คุณไม่ถนัดหรือไม่อยากจะทำ ไม่จำเป็นต้อง Say Yes กับทุกโมเมนต์ของการทำงาน แต่ให้เลือกสิ่งที่เหมาะกับคุณมากที่สุด ทำแล้วสบายใจออกมาดีและที่สำคัญคือจะต้องมีเวลาพักผ่อน

เมื่อใดก็ตามที่คุณมี Work life harmony ปัญหาสุขภาพจะลดน้อยลง

การทำงานหนักเกินไปและการทำงานเป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อคุณหลายอย่าง ซึ่งอาจรวมถึง

  • ความเหนื่อยล้า  ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างมาก และอาจทำให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพลดน้อยลง 
  • สุขภาพไม่ดี เป็นผลมาจากทั้งความเครียดและการละเลยนิสัยที่ดีต่อสุขภาพ ความเครียดอาจส่งผลต่อสภาวะอื่น ๆ เช่น เครียดเลยดื่มแอลกอฮอล์มากจนเกินไป ซึ่งยิ่งเป็นการซ้ำเติมร่างกายและสุขภาพมากขึ้นเข้าไปอีก
  • ผลกระทบด้านลบต่อความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ครอบครัว ภรรยา ลูก การทำงานหนักมากจนเกินไป ยังส่งผลไม่ดีต่อความสัมพันธ์ที่คุณมีต่อตัวเองด้วย

ผู้ที่ทำงานล่วงเวลา 3 – 4 ชั่วโมงยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับหัวใจถึง 60% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ทำงานล่วงเวลา  และการทำงานล่วงเวลาอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ ดังนี้ 

  • รู้สึกไม่สบายตัว และเจ็บกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น
  • อัตราการบาดเจ็บจากการทำงานที่สูงขึ้น
  • เพิ่มโอกาสในการสูบบุหรี่
  • อัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้น

นักวิจัยของสแตนฟอร์ดพบว่า หลังจากที่พนักงานทำงาน 50 ชั่วโมงขึ้นไป ผลงานของพวกเขาจะลดลงอย่างมาก และ ประสิทธิภาพการทำงานเกือบจะดิ่งลงหลังจากผ่านไป 55 ชั่วโมง 

การมีความตั้งใจทุ่มเทกับการทำงานทำงานหนักเป็นสิ่งที่ดี แต่ทุกอย่างจะต้องมีลิมิต ให้คุณทำงานหนักในช่วงระยะเวลาของกรอบของการทำงาน หลังจากที่หมดช่วงเวลานั้นแล้ว ก็ขอให้คุณพักผ่อนให้เต็มที่ โดยอาจจะไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่การได้นอนหลับเต็มที่ ตื่นเต็มตาได้ทำกิจกรรมที่คุณชอบ ออกกำลังกาย ได้มีเวลาดูแลตัวเอง อยู่กับคนที่คุณรัก อยู่กับครอบครัว ก็จะเป็นการผนวกความสุขของการใช้ชีวิตเข้ากับการหาเงินได้อย่างลงตัว และอูก้าหวังว่าวันนี้คุณมีชีวิตการทำงานที่มีความสุขจริง ๆ หรือถ้าตอนนี้คุณกำลังมีความกังวลในเรื่องของการงานที่กลืนชีวิตคุณมากเกินไป ก็ยังไม่สายที่จะเริ่มปรับตั้งแต่วันนี้ค่ะ

แชร์บทความนี้ ให้คนที่ห่วงใย

OOCA
OOCA
บทความด้านสุขภาพจิตหลากหลายด้าน เป็นคลังความรู้ให้คุณได้อ่านและพร้อมรับมือกับทุกปัญหา
สนใจปรึกษานักจิตวิทยา
แบบนั่งคุยจากที่บ้าน
ดาวน์โหลดแอพอูก้าได้เลย
อูก้าเป็นกำลังใจให้นะ!
แอดเลย Line Official
ช่องว่างระหว่างวัยในที่ทำงาน

ช่องว่างระหว่างวัยในที่ทำงาน: การเข้าใจและการสื่อสารอย่างเหมาะสม

เข้าใจและสื่อสารได้อย่างเหมาะสมในช่องว่างระหว่างวัยในที่ทำงาน! เรียนรู้เคล็ดลับเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างความสำเร็จในการทำงานได้ทันที!

EAP (Employee Assistance Program)

วันนี้คุณดูแลใจพนักงานของคุณหรือยัง EAP (Employee Assistance Program)

ค้นพบทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพนักงานที่มีความสุข และมีประสิทธิผลมากขึ้น ปลดล็อกสิทธิประโยชน์ของโปรแกรม Employee Assistance Program ของเราวันนี้!

ขอบคุณที่ติดตามข้อมูลข่าวสารจากเรา

อูก้า เรื่องของใจ ให้เรารับฟัง

ooca It’s okay we’ll listen