เพราะเรื่องราวในชีวิตของเราทุกคนล้วนแตกต่างกัน และบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เลือกไม่ได้ ความกตัญญูเป็นสิ่งดี แต่ความกตัญญูจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถ้ามาพร้อมกับการมองโลกด้วยสติ และมองโลกตามความเป็นจริง ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันนี้เราเห็นข่าวมากมายที่เกี่ยวกับความ toxic ของพ่อแม่ที่กระทำต่อลูก หลาย ๆ คนอาจจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์
แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีเด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้เกิดและเติบโตขึ้นมากับครอบครัวที่มีคุณภาพ ไม่ได้มีความรักความเข้าใจกันมากสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นวันนี้อูก้าจะขอมาส่งกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังเจอปัญหาครอบครัวอยู่ ขอให้คุณตั้งสติและลองอ่านแนวทางที่อูก้านำมาแนะนำนี้กันดู หวังว่าจะช่วยคุณได้บ้างไม่มากก็น้อย
พฤติกรรม Toxic parents คืออะไร?
คือ รูปแบบของพฤติกรรมที่พ่อแม่แสดงออก และเป็นการกระทำที่ส่งผลเสียและเป็นอันตรายต่อสุขภาพทางอารมณ์ จิตใจ และแม้กระทั่งร่างกายของลูก พฤติกรรมเหล่านี้อาจสร้างความรุนแรงและผลกระทบที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วพฤติกรรมเหล่านี้จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีต่อสุขภาพจิต และไม่เอื้ออำนวยการสร้างความสุขให้กับเด็ก พฤติกรรม Toxic parents เช่น
- บงการ: มีการบงการ หรือการขู่ เพื่อควบคุมการกระทำหรือการตัดสินใจของบุตรหลาน
- การดูถูกเหยียดหยาม: การวิพากษ์วิจารณ์ ดูหมิ่น หรือเยาะเย้ยลูก ๆ
- การละเลย: เป็นการละเลยทางอารมณ์ ร่างกาย หรือจิตใจ พ่อแม่ไม่สามารถให้การดูแล ความเอาใจใส่ และการสนับสนุนที่จำเป็นแก่ลูก ๆ ได้
- การควบคุมที่มากเกินไป: มีการควบคุมลูกอย่างเอาแต่ใจ
- ความรักแบบมีเงื่อนไข: มีการให้ความรัก เมื่อลูกมีคุณสมบัติตรงตามความคาดหวัง
- การบุกรุกความเป็นส่วนตัว: บุกรุกความเป็นส่วนตัวของบุตรหลานโดยกอ่าน หรือรื้อค้นทรัพย์สินส่วนตัวโดยไม่ได้รับความยินยอม
- และอื่น ๆ
โดย พฤติกรรม Toxic parents สามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาหนึ่ง และอาจไม่ปรากฏตลอดเวลา หรือสำหรับบางครอบครัวอาจพบการควบคุมนี้อยู่บ่อยครั้ง
การจัดการอารมณ์ และการทำความเข้าใจพฤติกรรมที่เป็นพิษของ Toxic parents
เรื่องนี้อูก้าขอบอกเลยว่า เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบ้านของคุณไม่ปลอดภัย แต่ถึงอย่างนั้นอูก้าก็จะมาแนะนำขั้นตอนที่จะช่วยทำให้คุณรับมือ มีความอุ่นใจ และจัดการความรู้สึกของคุณกัน
1. ทำความเข้าใจก่อน
ก่อนอื่นอูก้าขอแนะนำว่า คุณต้อง “ทำความเข้าใจ” เสียก่อน คำว่าทำความเข้าใจ ไม่ได้หมายถึงว่าให้คุณยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นและคุณต้องทำใจเอาเลยว่าการกระทำเหล่านี้อาจจะเปลี่ยนไม่ได้ สำหรับบางคนอาจจะเปลี่ยนได้บ้าง แต่ขอบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นทำใจเอาไว้ตั้งแต่แรกเริ่มจะดีกว่า
2 . ขอการสนับสนุนจากคนที่ไว้ใจได้
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ญาติ พี่น้อง ที่คุณรู้สึกปลอดภัยที่จะคุยด้วย และพวกเขาจะต้องเป็นคนที่มี mindset ที่เปิดกว้าง ตัดสินสิ่งที่ถูกผิดจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ด้วยหลักเหตุและผล ซึ่งจะทำให้คุณเห็นภาพรวมในการใช้ชีวิตกับพ่อแม่ได้กว้างขึ้น แล้วคุณจะได้มั่นใจได้ว่าคุณไม่ได้ใช้อารมณ์หรืออีโก้ของตัวเองเพียงฝ่ายเดียว หรือถ้าคุณไม่ไว้ใจใครเลย ก็ยังมีนักจิตวิทยาหรือคุณหมอจิตแพทย์พร้อมที่จะรับฟังคุณอย่างเข้าใจ
3. ฝึกฝนการดูแลตนเอง
ก่อนที่จะดูแลคนอื่น คุณจะต้องเรียนรู้วิธีดูแลตัวเองซะก่อน วิธีไหนที่จะทำให้คุณผ่อนคลายอารมณ์ได้ ทำให้คุณมีความสงบทำให้คุณหยุดคิดถึงเรื่องเลวร้ายหรือเรื่องลบ ๆ ได้ ให้คุณนำพาตัวเองหรือนำพาอารมณ์ไปสู่จุดนั้น อย่าให้อารมณ์ในแง่ลบอยู่กับสมองของคุณเป็นเวลานาน
4. ไม่ใช้อารมณ์ในการพูดคุย
ในกรณีที่คุณเกิดอารมณ์ในแง่ลบขึ้นมาเพราะการควบคุมของพ่อแม่ หรือไม่ว่าจะเป็นความ toxic ประเภทใดก็ตาม อูก้าขอแนะนำให้คุณสูดหายใจเข้าลึก ๆ และตั้งสติ ตอบกลับไปด้วยเหตุผล ในกรณีที่พ่อแม่บางคนไม่ฟังเหตุผลของลูก ก็ให้ถือว่าคุณทำดีที่สุดแล้ว ถ้าสามารถเลี่ยงการปะทะอารมณ์ได้ ก็ขอให้คุณนั้นเดินหนีออกมา
5. อดทน
ในกรณีที่พ่อแม่ของคุณมีการทำร้ายจิตใจด้วยคำพูด แต่ไม่ได้กระทำความรุนแรงต่อร่างกาย สิ่งที่อูก้าอยากจะให้คุณระลึกถึงไว้มากที่สุดก็คือความอดทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกำลังอยู่ในช่วงวัยที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ยังไม่สามารถหางานทำได้ ให้คุณพยายามรักษาจิตใจของตัวเองให้ดีที่สุด หรือในกรณีที่คุณอยู่ในช่วงวัยที่มีงานทำแล้ว มีศักยภาพในการดูแลตัวเองได้ขอให้นำตัวเองเฟดออกมา โดยคุณอาจจะเช่าห้องอยู่ให้ไกลบ้านอีกสักนิด
แต่ในกรณีที่มีการทำร้ายร่างกาย คุณควรขอความช่วยเหลือจากคนที่คุณไว้ใจได้อย่างเร่งด่วน เพราะการทำร้ายร่างกายแม้แต่พ่อแม่กระทำต่อลูก ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง และไม่ควรถูกเพิกเฉย
ขอให้คุณจำไว้เสมอนะว่า สุขภาพจิตและอารมณ์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นเรื่อง “ปกติ” ที่จะตีตัวออกห่างจากพฤติกรรมที่เป็นพิษ แม้ว่าจะมาจากพ่อแม่ก็ตาม คุณสมควรมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสงบ ได้รับความเคารพ และมีความสุข สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพสำหรับตัวคุณเองขึ้นมา และหาพื้นที่เซฟโซนของตัวเองให้เจอ รักตัวเองให้มาก ๆ
และในกรณีที่คุณรู้สึกว่าความเศร้าของคุณตกอยู่ในช่วงดิ่งลึกมากจนเกินไป และเป็นอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมนะว่าอูก้าอยู่ตรงนี้เพื่อคอยรับฟัง และพร้อมให้คำปรึกษาแก่คุณเสมอ