สิ่งใดในโลกนี้ล้วนไม่เที่ยง แม้แต่สังขารหรือร่างกายของมนุษย์เรา สักวันก็จะต้องร่วงโรยราเปลี่ยนไปตามวัยที่มากขึ้น รูปลักษณ์ภายนอกที่เคยแต่งตึงก็ค่อย ๆ พบริ้วรอยหรือความหย่อนคล้อย ผมที่เคยดกดำก็กลับกลายเป็นสีเทา สายตาที่เคยมองเห็นทุกสิ่งบนโลกนี้ได้อย่างแจ่มชัด ก็เริ่มฝ้าฟางมากขึ้น แต่! อย่าปล่อยให้ความแข็งแรงทั้งร่างทางร่างกายและจิตใจร่วงโรยไปตามวัยดีกว่าค่ะ
วันนี้อูก้าจะมาแนะนำ 6 วิธีแก่ยังไงให้มีคุณภาพ เตรียมตัวรับมือกับช่วงวัยที่เปลี่ยนไป สำหรับผู้ที่เริ่มมีอายุมากขึ้น ร่างกายเริ่มเสื่อมสมรรถภาพลง ในเรื่องของสุขภาพร่างกายอูก้าขอแนะนำให้คุณฝึกนิสัยในการออกกำลังกาย และทานอาหารที่มีประโยชน์ และอย่าลืมดูแลสุขภาพจิตของตนเองด้วย เพราะคนเราไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหน ก็มีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบสุขภาพจิตของตนเองอยู่เสมอ เอาละค่ะ มาดูกันเลยดีกว่าว่า 5 วิธีที่อูก้าจะมาแนะนำนี้มีอะไรบ้าง

1. สร้างความสัมพันธ์ทางสังคม
การวิจัยแสดงให้เห็นว่า ผู้สูงอายุที่ได้รับการซัพพอร์ตจากครอบครัวและเพื่อนฝูง จะมีความนับถือในตนเองสูงกว่าผู้ที่อยู่คนเดียว และในขณะเดียวกันผู้สูงอายุที่มีความนับถือในตนเองต่ำ ก็อาจพบว่าเป็นการยากที่จะสร้างมิตรภาพในช่วงวัยที่มากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องเตรียมตัว คือ การหาสังคมที่คุณอยู่แล้วสบายใจ เช่นการเข้าร่วมกลุ่มชมรมผู้สูงอายุแถวบ้าน หรือเริ่มต้นเรียนสิ่งใหม่ ๆ เช่นเรียนทำอาหารไทย เรียนวาดรูปสีน้ำ เรียนโยคะ ไทเก็กและอื่น ๆ ซึ่งคุณจะได้พบกับเพื่อนที่มีความชอบที่เหมือนกัน ในคอมมูนิตี้เดียวกัน แล้วคุณก็จะมีสังคมใหม่ ๆ อีกหนึ่งกลุ่ม เป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจนอกเหนือไปจากเพื่อนที่คุณอาจมีอยู่แล้ว หรือมีคนให้คุณได้พูดคุยแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆ นอกเหนือไปจากครอบครัว
2. แต่งตัวอาบน้ำทำร่างกาย ให้สดชื่น
ไม่สำคัญว่าคุณจะมีอายุเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบรักในการแต่งตัว ชอบเรื่องแฟชั่น สามารถแต่งตัวจัดเต็มหรือแต่งตัวในสไตล์ที่คุณชอบได้เลย การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการอาบน้ำจะเป็นการรีบูทพลังงานทำให้คุณรู้สึกสดชื่น จิตใจก็แจ่มใสตามไปด้วย และการได้ลุกขึ้นมาแต่งตัวก็ยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้หลาย ๆ คนมีความสุข และอาจทำให้คุณมีไอเดียในการอยากออกไปข้างนอกบ้านบ้าง
3. หลีกเลี่ยงการรับพลังงาน จากทัศนคติเชิงลบ
ในปัจจุบันนี้คุณอาจพบสื่อโฆษณาหรือคอนเทนต์มากมาย ที่ชี้ให้เห็นว่าความชราเป็นเรื่องแย่ หรือความชราต้องมาพร้อมกับโรค หรือสิ่งในแง่ลบต่าง ๆ ซึ่งเราขอบอกเลยว่าสิ่งเหล่านี้เป็นพลังงานเชิงลบที่คุณควรหลีกเลี่ยง เพราะความชราคือเรื่องของธรรมชาติที่ไม่ว่าใคร ๆ สักวันก็จะต้องพบเจอ ดังนั้นแนะนำให้คุณอ่านสิ่งที่เป็นบวก สิ่งที่น่าสนใจ เช่น เรื่องราวข่าวสารที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ การพัฒนาของโลก หรือลองอ่านเรื่องราวข่าวสารจากต่างประเทศบ้าง ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีการแปลข่าวจากต่างประเทศ ให้คุณได้อ่านกันแบบฟรี ๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นเรื่องราวที่เป็นความรู้แล้ว ในขณะเดียวกันก็อาจจะให้แรงบันดาลใจแก่คุณ ในบางแง่มุม ก็เป็นได้
4. หางานอดิเรก หรือทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจ
ถ้าหากคุณต้องการสานสัมพันธ์กับเพื่อนหรือเพียงแค่ใช้เวลาพักผ่อนอย่างสงบด้วยตัวคุณเอง ลองเลือกงานอดิเรก หางานอดิเรกสนุกๆ ที่จะทำให้คุณมีความสุขและสุขภาพดี สิ่งนี้สามารถเปิดโอกาสให้คุณได้เชื่อมต่อกับผู้อื่นที่ชอบกิจกรรมเดียวกัน เช่น อ่านหนังสือ ทำอาหาร หรือเล่นเกมฝึกสมองต่าง ๆ

5. กินอาหารเพื่อสุขภาพ และออกกำลังกาย
การดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารที่ดี และการออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้คุณรู้สึกมีความภาคภูมิใจในตนเองที่ดีให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองเป็นอันดับแรก และการออกกำลังกายเป็นประจำ ยังทำให้คุณแข็งแรงและเพิ่มความมั่นใจ ในร่างกายของตัวเอง แม้จะอายุมากขึ้นก็ตาม และการออกกำลังกายไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตด้วย เพราะการเคลื่อนไหวจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินที่ทำให้คุณรู้สึกดี อย่าปล่อยให้ความชรากลายเป็นข้ออ้างของการไม่ดูแลตัวเอง
6. ฝึกฝนจิตใจของตนเองให้เป็นคนที่เปิดกว้าง
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจธรรมชาติของโลกใบนี้ เพราะโลกในปัจจุบันนี้มีการพัฒนาและขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่หลายคนจะคาดคิด เรื่องที่คุณคิดว่าในวันนี้เป็นเรื่องใหม่ เมื่อผ่านไป 2 สัปดาห์ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องเล่าไปเสียแล้ว ดังนั้นพยายามฝึกฝนจิตใจตัวเองให้เป็นคนที่เปิดกว้าง พร้อมรับข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ และมองข้อมูลเหล่านั้นอย่างเป็นกลาง รวมทั้งในเรื่องของความชอบแนวทางการใช้ชีวิตของลูกหลานด้วยเช่นเดียวกัน
หลาย ๆ ครอบครัวผู้สูงวัยมักจะมีปัญหากับลูกหลานเพราะความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน และต่างฝ่ายต่างไม่ยอมปรับตัวเข้าหากัน และแน่นอนว่าการที่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปรับตัวเพียงแค่ฝ่ายเดียวนั้นก็ไม่ได้ ดังนั้นแล้วในกรณีที่คุณเกิดความคิดเห็นที่ไม่ลงรอย หรือต้องการให้ลูกหลานทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ ขอให้คุณเปิดใจพูดอย่างตรงไปตรงมาด้วยความสุภาพ อูก้าเชื่อว่าไม่ว่าจะเจอปัญหาหรือเกิดความไม่ลงรอยใด ๆ ในครอบครัว จากการเปิดใจนี้จะทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้จากการร่วมมือของทุก ๆ ฝ่ายค่ะ
และสุดท้ายนี้สิ่งที่อูก้าอยากจะฝากเอาไว้ก็คือ การเดินเข้าสู่วัยชราอย่างมีคุณภาพคือการปรับทัศนคติ และความคิดให้เข้ากับโลกยุคสมัยใหม่ เพราะไม่มีสิ่งใดจีรังยั่งยืน สิ่งที่เคยตั้งอยู่สักวันก็จะสลายหายไป เหมือนกับอายุของคนเรา ดังนั้นเรื่องในบางเรื่องที่เป็นเรื่องของคนในยุคเจเนอเรชั่นใหม่ ๆ คุณอาจจะไม่เข้าใจหรือไม่เก็ตฟีลก็ได้ เพราะว่าสังคมในแต่ละช่วงวัยนั้นก็มีความแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือ การทำความเข้าใจใน “ความต่าง” ของบุคคลแต่ละคนที่มีความชอบต่างกัน มีแนวทางในการใช้ชีวิตที่ต่างกัน และคุณก็จะได้สบายใจ สามารถปล่อยวางความคิดได้ในหลาย ๆ ด้าน และหันกลับไปใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างมีความสุขในยามบานปลาย อูก้าเอาใจช่วยและส่งพลังให้อยู่นะ
อ้างอิง: marytinc.com