โรคจิตเภท หรือโรคไซโคพาธ (Psychopaths) คือความผิดปกติทางบุคลิกภาพขั้นรุนแรง เกิดจากความผิดปกติทางบุคลิกภาพโดยมีอารมณ์ และพฤติกรรมที่หลากหลาย และโรคไซโคพาธ (Psychopaths) ยังเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคมอีกด้วย
มีสิ่งสำคัญที่คุณควรทราบ และอูก้าอยากจะย้ำกันมาก ๆ ก็คือ ไม่ใช่ว่าบุคคลที่มีบุคลิกภาพต่อต้านสังคมทุกคนจะเป็นคนโรคจิต และไม่ใช่คนโรคจิตทุกคนจะแสดงพฤติกรรมที่ก่ออาชญากรรม ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และผู้ที่มีแนวโน้มที่จะมีอาการทางจิตควรปรึกษาจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา เพื่อหาคำตอบให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง
โรคจิตเภท (Psychopaths)
สัญญาณของผู้ที่อาจเป็นโรคจิตเภท อาจรวมถึง
- มีพฤติกรรมที่ขัดแย้งกับบรรทัดฐานทางสังคม
- ละเลยหรือละเมิดสิทธิของผู้อื่น
- ไม่สามารถแยกแยะระหว่างถูกและผิด
- มีความยากลำบากในการแสดงความสำนึกผิด หรือความเห็นอกเห็นใจ
- มีแนวโน้มที่จะโกหกบ่อย ๆ
- ทำร้ายผู้อื่น
- การไม่คำนึงถึงความปลอดภัย
สัญญาณอื่นๆ ที่อาจปรากฎร่วมด้วย ได้แก่ แนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมที่ประมาท หุนหันพลันแล่น หรืออาจนำไปสู่ผลที่ตามมาที่เป็นอันตราย และสำหรับบางคนอาจแสดงพฤติกรรมเพิ่มเติมได้แก่
- มีความก้าวร้าวมาก
- มีอารมณ์โกรธมาก
และอาจหุนหันพลันแล่น หรือมักดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น และอาจขาดความสำนึกผิดในการทำพฤตกรรมที่รุนแรง นอกจากสัญญาณและพฤติกรรมดังกล่าว ยังพบว่า ผู้ป่วยโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม หรือ ASPD พบได้ทั่วไปในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และเป็นภาวะเรื้อรัง (ระยะยาว)
ทำความรู้จักกับผู้เป็นโรคจิตเภท
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคจิตเภท จะไม่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และจากการขาดความเห็นอกเห็นใจนี้เอง ทำให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคจิตชอบบงการชีวิตของผู้อื่น และโรคจิตเภทถือเป็นความผิดปกติที่ตรวจพบได้ยากที่สุด เพราะผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้อาจดูปกติก็ได้ หรือบางคนเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก แต่ภายในกลับขาดมโนธรรม
ผู้ที่เป็นโรคทางจิตในวัยผู้ใหญ่มักดื้อต่อการรักษา ทำให้การพบโรคนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ หรือวัยรุ่น จะทำให้วางแผนแนวทางการรักษาได้เร็วขึ้น โดยกายวิภาคของสมอง พันธุกรรม และสภาพแวดล้อมของบุคคล ล้วนมีส่วนทำให้เกิดการพัฒนาลักษณะอาการทางจิตได้
โรคจิตเภทเริ่มต้นในช่วงวัยใด?
ในระยะเริ่มแรกของผู้ที่ป่วยเป็นโรคจิตเภท มักพบอาการ “ลักษณะใจแข็งและไร้อารมณ์” ตั้งแต่วัยเด็ก (ก่อนอายุ 10 ปี) และอาจได้รับการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการเมื่อมีการแสดงอาการมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการแสดงลักษณะทางจิตในวัยเด็กไม่ได้หมายความว่าบุคคลนั้นจะกลายเป็นโรคจิตในผู้ใหญ่เสมอไป
ปัญหาอะไรทำให้คนกลายเป็นโรคจิต?
เช่นเดียวกับลักษณะบุคลิกภาพอื่น ๆ ลักษณะของผู้ที่มีอาการทางจิต มักได้รับอิทธิพลอย่างมากจากพันธุกรรม แม้ว่าการวิจัยจะชี้ให้เห็นว่าปัจจัยที่ไม่ใช่ทางพันธุกรรมก็มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน นักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตเห็นสัญญาณของการทำงานผิดปกติของพื้นที่สมองบางส่วน (เช่น ต่อมทอนซิล) ในผู้ที่มีลักษณะทางจิต
โรคจิตได้รับการวินิจฉัยอย่างไร?
สามารถตรวจสอบได้จาก (PCL-R) และรายการบุคลิกภาพทางจิตเวช (PPI) เป็นการทดสอบที่แพทย์และนักจิตวิทยานิติวิทยาศาสตร์ใช้เพื่อประเมินพฤติกรรมต่อต้านสังคม โดยแบบทดสอบทั้ง 2 มุ่งเน้นไปที่การรวบรวมข้อมูล PPI
ผู้ป่วยที่เป็นโรคจิตและความรุนแรง
สำหรับบางคนคำว่า “ผู้ป่วยโรคจิต” อาจดูเหมือนมีความหมายเหมือนกันกับ “อาชญากร” หรือ “ฆาตกร” แต่ความเป็นจริงของโรคจิตเวชนั้นซับซ้อนกว่า โดยที่นักวิทยาศาสตร์พยายามเจาะลึกความเชื่อมโยงทางสถิติระหว่าง ผู้ที่มีอาการทางจิตและพฤติกรรมรุนแรง หลาย ๆ คนอาจคิดไปว่า ผู้ที่ป่วยมีแนวโน้มที่จะหันเหไปกระทำความผิด และแสดงลักษณะต่อต้านสังคมอื่น ๆ มากกว่า ซึ่งอาจทำให้คนโรคจิตมีแนวโน้มมากกว่าคนอื่น ๆ ที่จะข้ามขอบเขตทางศีลธรรม เช่น ข่มขู่ผู้อื่น ทำร้าย หรือก่อการฆ่า
แต่ทว่าความเชื่อมโยงระหว่างผู้ที่มีอาการทางจิตและความรุนแรงนั้นยังห่างไกล คนโรคจิตบางคนไม่ใช่ฆาตกรหรือเป็นอาชญากรด้วยซ้ำ
สิ่งที่ต้องระวัง เสน่ห์ของผู้ป่วย โรคไซโคพาธ (Psychopaths)
คนโรคจิตบางคน อาจเป็นคนที่มีเสน่ห์ และเก่งในเรื่องของการโน้มน้าวใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงที่เป็นโรคจิตซึ่งมีนิสัยชอบเข้าสังคมและมีอารมณ์มากกว่าผู้ชาย ถึงแม้ว่าผู้ป่วยโรคไซโคพาธ (Psychopaths) จะขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอย่างแท้จริง แต่พวกเขามักจะมีทักษะในการ “แกล้งทำ” ซึ่งปรับพฤติกรรมเข้ากับสังคม เช่น การเยินยอผู้อื่น แสดงความเมตตา และความเห็นอกเห็นใจ พวกเขาอาจใช้ทักษะเหล่านี้เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการจากผู้คน แต่ไม่ได้ออกมาจากความจริงใจ แต่ในที่สุดพวกเขาก็จะไม่สามารถตามทันการกระทำของตัวเองได้ เมื่อเวลาผ่านไป เสน่ห์ก็วางแผนมานานก็อาจจะหมดไป เผยให้เห็นความเยือกเย็นหรือความโหดร้ายที่ซ่อนอยู่
และสิ่งสำคัญที่คุณควรทราบคือ โดยทั่วไปแล้วการวินิจฉัยโรคจิตเภท มักจะใช้เครื่องมือประเมินที่ได้มาตรฐาน เช่น Hare Psychopathy Checklist-Revised (PCL-R) และไม่ใช่ทุกคนที่มีลักษณะทางจิตจะเข้าเกณฑ์การวินิจฉัยนี้ และความรุนแรงของลักษณะเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ดังนั้นการเข้ารับคำปรึกษากับคุณหมอจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุด