เสริมสุขภาพจิตด้วยความกตัญญูกตเวที เพิ่มพลังให้ชีวิตดีขึ้น

ยิ่งให้ยิ่งได้! พลังแห่งความกตัญญูกตเวที (Gratitude) ช่วยเยียวยาสุขภาพจิตได้อย่างไร? มาเริ่มต้นเปลี่ยนชีวิต ด้วยความรู้สึกขอบคุณกันเถอะ
เสริมสุขภาพจิตด้วยความกตัญญูกตเวที

เลือกอ่านเฉพาะหัวข้อ

นิยามของคำว่า “กตัญญู” ที่อูก้าจะมาพูดถึงในวันนี้ คือความกตัญญูที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่า “Gratitude” คือ การมีความรู้สึกซาบซึ้งใจ การรู้สึกขอบคุณ ทั้งต่อสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต จัดเป็นการฝึกวิธีคิดในแง่บวก (+) อย่างหนึ่ง วิธีนี้เป็นวิธีปฏิบัติในการฝึกคิดที่มีประสิทธิภาพ และอาจส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของคุณ เป็นการมองชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่ง ที่หลาย ๆ คน อาจจะมองข้ามไป โดยเป็นการฝึกยอมรับและมองให้เห็นถึงคุณค่าสิ่งดี ๆ ในชีวิตของคุณ ทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่ 

ซึ่งจะทำให้คุณนั้นมีความรู้สึกดีกับชีวิตของตัวเองมากยิ่งขึ้น จากที่คุณอาจจะเคยมองว่าชีวิตของตนเองนั้นไม่ดีเลย ไม่มีสิ่งดี ๆอยู่ในชีวิตของตัวเองเลย การฝึกความรู้สึกขอบคุณ หรือสำนึกคุณต่อสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณในสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว จะทำให้สุขภาพจิตของคุณนั้นดีขึ้น มองโลกในหลากหลายแง่มุมได้ไกลยิ่งกว่าเดิม

พลังแห่งความกตัญญูกตเวที (Gratitude) ช่วยเยียวยาสุขภาพจิตได้อย่างไร?

การแสดงความกตัญญูกตเวที หรือการแสดงความรู้สึกขอบคุณ การแสดงความรู้สึกซาบซึ้งใจ ต่อสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวคุณ จะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงพลังในแง่บวกมากยิ่งขึ้น และสิ่งนี้ถ้ามีการทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยเปลี่ยน Mindset หรือเปลี่ยนวิธีการคิดบางอย่างของคุณให้ดีต่อตัวคุณเองมากยิ่งขึ้น โดยมีข้อดีที่ทางอูก้าอยากจะแนะนำให้คุณได้ทำความรู้จักกัน ดังนี้
  • ช่วยเปลี่ยนโฟกัสไปที่การมองโลกในแง่บวก: ความกตัญญูกตเวที (Gratitude) ช่วยดึงความสนใจของคุณจากความคิดและประสบการณ์เชิงลบไปสู่ประสบการณ์ในแง่บวก สิ่งนี้จะทำให้คุณมองหาสิ่งที่ดีในทุก ๆ สถานการณ์ แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทายก็ตาม การเปลี่ยนโฟกัสไปยังมุมมองในแง่บวกนี้ ช่วยลดความเครียด ลดความกังวล และช่วยลดความรู้สึกหนักใจได้
  • ช่วยเพิ่มความสุขและความพึงพอใจในชีวิต: เมื่อคุณบ่มเพาะความรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอ ๆ คุณจะได้สัมผัสกับอารมณ์เชิงบวกมากขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ การยอมรับและชื่นชมสิ่งที่คุณมี จะทำให้คุณรู้สึกมีสุขภาวะโดยรวมดีขึ้น การวิจัยพบว่าการแสดงความขอบคุณเป็นประจำ สามารถนำไปสู่ความสุขและความพึงพอใจในชีวิตที่เพิ่มขึ้น
  • ช่วยลดความเครียด และเพิ่มความยืดหยุ่นในยามที่เจอปัญหา: การมีความรู้สึกต่อ ความกตัญญูกตเวที (Gratitude) มีผลดีต่อการช่วยลดความเครียด และเพิ่มความยืดหยุ่นในยามที่คุณเจอปัญหาได้มาก เมื่อคุณฝึกฝนความรู้สึกนี้เป็นประจำ คุณจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อเผชิญกับความทุกข์ยาก ช่วยทำให้คุณรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ดี โดยส่งเสริมความคิดเชิงบวกและส่งเสริมความรู้สึกเข้มแข็งจากภายใน
  • ปรับปรุงความสัมพันธ์: การแสดงความขอบคุณต่อผู้อื่น ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณมีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เมื่อคุณแสดงความชื่นชมต่อการกระทำหรือสิ่งดี ๆ ของใครบางคน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ให้ประโยชน์แก่คนที่คุณชมเท่านั้น แต่ยังทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนที่คุณชมมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วย
  • ช่วยยกระดับการดูแลตนเอง: ความรู้สึกซาบซึ้งใจ ยังใช้ในการส่งเสริมดูแลตนเองอีกด้วย เพราะเป็นการแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อตนเอง มีการยอมรับและเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่าในตัวเองและรักตัวเองมากกว่าที่เคย สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การเห็นคุณค่าในตนเองที่ดีขึ้น และมีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นกับตัวเอง
  • ช่วยพัฒนาความคิดเชิงบวก: ความรู้สึก Gratitude ยังช่วยทำให้คุณพัฒนาความคิดเชิงบวก และการมองโลกในแง่ดีมากขึ้น ช่วยทำให้คุณปรับเปลี่ยนประสบการณ์เชิงลบให้กลายเป็นประสบการณ์ที่ดี และน่าจดจำมากขึ้น และยังเป็นการปลูกฝังที่ทำให้คุณเผชิญหน้ากับความท้าทายที่เข้ามาในชีวิต ด้วยทัศนคติที่เป็นบวกมากขึ้น
  • ปรับปรุงชีวิตโดยรวม: การฝึกความรู้สึกกตัญญูสำนึกคุณเป็นประจำ ยังเชื่อมโยงกับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยรวมอีกด้วย สามารถเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจ ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับให้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มระดับพลังงาน และลดอาการซึมเศร้าและลดความวิตกกังวล เพราะเป็นการจูงจิตของคุณให้โฟกัสไปในสิ่งที่ดี

งานวิจัยเรื่องความกตัญญูกตเวที (Gratitude)

นักจิตวิทยา 2 คน ได้แก่ Dr. Robert A. Emmons จาก University of California, Davis และ Dr. Michael E. McCullough จาก University of Miami ได้ทำการวิจัยมากมายเกี่ยวกับเรื่องความกตัญญู หรือความรู้สึกขอบคุณ ในการศึกษาหนึ่ง พวกเขาขอให้ผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมดเขียนประโยค 2 – 3 ประโยคในแต่ละสัปดาห์ โดยเน้นหัวข้อเฉพาะที่พวกเขากำหนด

โดยให้กลุ่ม A เขียนเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขารู้สึกขอบคุณ เขียนสิ่งที่เป็นบวกที่เกิดขึ้นในระหว่างสัปดาห์ที่ทำการทดลอง ส่วนกลุ่ม B ให้เขียนเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้พวกเขาไม่พอใจ และกลุ่ม C เขียนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา (โดยไม่เน้นว่าสิ่งนั้นเป็นบวกหรือลบ) หลังจากผ่านไป 10 สัปดาห์ พบว่าผู้ที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความกตัญญู รู้สึกขอบคุณกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะมองโลกในแง่ดีมากขึ้นและรู้สึกดีกับชีวิตมากขึ้น และน่าแปลกที่พวกเขามีการออกกำลังกายมากขึ้น และไปพบแพทย์น้อยกว่ากลุ่มที่มุ่งความสนใจไปที่ความรู้สึกลบ ๆ 

มาเริ่มต้นเปลี่ยนชีวิต ด้วยความรู้สึกขอบคุณกันเถอะ!

ถ้าคุณอยากฝึกการมีพลังแห่งความกตัญญูกตเวที (Gratitude) ให้มากขึ้น อูก้าขอแนะนำว่าคุณสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วินาทีนี้เลย! เพียงแค่มองโลกรอบตัวให้มากขึ้น รู้สึกขอบคุณที่วันนี้คุณยังมีงานทำอยู่ ขอบคุณที่มีข้าวกิน ขอบคุณที่มีคนให้คุณได้พูดคุยปรึกษาได้อย่างสนิทใจ ขอบคุณตัวเองที่นอนหลับได้อย่างสนิทตลอดคืน ขอบคุณที่วันนี้คุณยังมีคนที่รักและใส่ใจคุณ ขอบคุณที่คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงมีแรงทำงาน หรือมีแรงออกไปใช้ชีวิตได้ในทุก ๆ วัน 

การเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เป็นพลังในแง่บวก อูก้าเชื่อว่าสิ่งนี้จะนำพาไปสู่สิ่งดี ๆ ที่ยิ่งใหญ่ได้มากกว่าเดิม และวันนี้ถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนแปลง Mindset เปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น อูก้าก็ขอเป็นกำลังใจให้และขอให้คุณประสบความสำเร็จในสิ่งที่ได้ตั้งใจเอาไว้ทุกประการ

อ้างอิง: Giving thanks can make you happier

แชร์บทความนี้ ให้คนที่ห่วงใย

OOCA
OOCA
บทความด้านสุขภาพจิตหลากหลายด้าน เป็นคลังความรู้ให้คุณได้อ่านและพร้อมรับมือกับทุกปัญหา
สนใจปรึกษานักจิตวิทยา
แบบนั่งคุยจากที่บ้าน
ดาวน์โหลดแอพอูก้าได้เลย
อูก้าเป็นกำลังใจให้นะ!
แอดเลย Line Official
อกหัก ให้นักจิตวิทยาฮีลใจ

ให้นักจิตวิทยาฮีลใจ ในวันที่อกหักต้องมูฟออนต่อไปโดยไม่มีเขา

จริงอยู่ที่หลายๆ ความเศร้าหลังอกหักจะลดน้อยลงไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่สามารถ มูฟออน หรือก้าวออกมาจากความสัมพันธ์ครั้งก่อนได้ด้วยตัวเอง

Stockholm Syndrome

Stockholm Syndrome: อาการเห็นใจหรือมีความรู้สึกดี ๆ กับคนร้าย

มีด้วยเหรอ?! อาการเห็นใจหรือมีความรู้สึกดี ๆ กับคนร้าย ที่กระทำสิ่งไม่ดีต่อเรา อูก้าขอตอบเลยว่า “มีแน่นอน” ซึ่งอาการนี้มีชื่อเรียกว่า “Stockholm Syndrome”

ขอบคุณที่ติดตามข้อมูลข่าวสารจากเรา

อูก้า เรื่องของใจ ให้เรารับฟัง

ooca It’s okay we’ll listen